ปัจจุบันดารงตาแหน่ง : นักวิชาการเงินและบัญชีปฏิบัติการ
หน่วยงาน : สานักงานเลขานุการกรม
หลักสูตรฝึกอบรม : โครงการฝึกอบรมด้านคอมพิวเตอร์ หลักสูตร เทคนิคการสารอง และกู้คืนข้อมูล
หน่วยงานผู้จัด : กระทรวงการคลัง
วัตถุประสงค์ของหลักสูตร / โครงการฝึกอบรม
๑) เพื่อเพิ่มพูนและพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรของกระทรวงการคลังให้มีความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
๒) บุคลากรของกระทรวงการคลังสามารถนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยไปใช้ในการปฏิบัติงาน
การแบ่งปันความรู้ที่ได้รับ : เทคนิคการกู้คืนข้อมูล (Data Restoration)
1. ความหมายของข้อมูล (Data)
ข้อมูล (Data) หมายถึง ข้อเท็จจริงหรือเหตุการณ์เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ เช่น คน สถานที่ สิ่งของต่างๆ ซึ่งมีการเก็บรวบรวมเอาไว้ และสามารถนาไปประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้สามารถเรียกเอามาใช้ประโยชน์ได้ในภายหลัง โดยข้อมูลอาจเป็นตัวเลข สัญลักษณ์ ตัวอักษร เสียง ภาพ ภาพเคลื่อนไหว เป็นต้น
2. ประเภทของข้อมูล
ข้อมูลตัวเลข (Numeric Data) ได้แก่ ข้อมูลที่เป็นจานวนตัวเลข สามารถนาไปคานวณได้ เช่น จานวนเงินเดือน ราคาสินค้า
ข้อมูลตัวอักษร (Text Data) ได้แก่ ข้อมูลที่เป็นตัวอักษร และสัญลักษณ์ เช่น ชื่อ สกุล ที่อยู่
ข้อมูลเสียง (Audio Data) ได้แก่ ข้อมูลที่เป็นเสียงต่างๆ เช่น เสียงดนตรี เสียงพูด
ข้อมูลภาพ (Images Data) ได้แก่ ข้อมูลที่เป็นจุดสีต่างๆ เมื่อนามาเรียงต่อกันแล้วเกิดรูปภาพขึ้น เช่น ภาพถ่าย ภาพลายเส้น เป็นต้น
ข้อมูลภาพเคลื่อนไหว (Video Data) ได้แก่ ข้อมูลที่เป็นภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น ภาพเคลื่อนไหวที่ถ่ายด้วยกล้องวิดีโอ หรือภาพที่ทาจากโปรแกรมต่างๆ เป็นต้น
3. ข้อมูลกับความสาคัญของสารสนเทศ
ฮาร์ดแวร์ เป็นองค์ประกอบสาคัญ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์รอบข้าง เช่น หน้าจอ เมาส์ คีย์บอร์ด เคส ฯลฯ
ซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็นชุดคาสั่งที่สั่งให้ฮาร์ดแวร์ทางาน เช่น โปรแกรมพิมพ์เอกสาร โปรแกรมบัญชี โปรแกรมท่องเว็บไซต์ ฯลฯ
ข้อมูล เป็นส่วนที่จะนาไปจัดเก็บในเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น ไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ ไฟล์เพลง ฯลฯ
บุคลากร เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานคอมพิวเตอร์ เช่น ผู้ป้อนข้อมูล ผู้พิมพ์งาน ฯลฯ
ขั้นตอนการปฏิบัติงาน เป็นสิ่งที่จะต้องเข้าใจเพื่อให้ทางานได้ถูกต้องเป็นระบบ
ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นคาแรกเตอร์ รูปภาพ เสียง หรือข้อมูลในรูปแบบต่างๆ จะต้องสามารถนาเข้าสู่คอมพิวเตอร์ และแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมด้วยอุปกรณ์อินพุตที่ให้คอมพิวเตอร์สามารถดาเนินการ จัดเก็บ หรือนาไปใช้ในระบบคอมพิวเตอร์ได้
4. สื่อสาหรับบันทึกข้อมูล
• ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) / SSD
• ฮาร์ดดิสก์แบบเชื่อมต่อภายนอก (External Hard Disk)
• แฟลชไดรว์ (Flash Drive หรือ Thumb Drive)
• แผ่น CD (Compact Disc) / DVD / Blu-Ray Disc
• การ์ดหน่วยความจาต่างๆ เช่น SD Card, Micro SD Card หรือ Compact Flash Card
5. ขั้นตอนการทางานของคอมพิวเตอร์
ข้อมูลทางานร่วมกับคอมพิวเตอร์ มีทั้งสิ้น 3 ขั้นตอนหลัก คือ การรับข้อมูลเข้า หรืออินพุต (Input) การดาเนินการ (Process) และการนาข้อมูลออก หรือเอาต์พุต (Output)
6. ความแตกต่างระหว่างการจัดเก็บข้อมูล และการทาสาเนาข้อมูล
• การจัดเก็บข้อมูล (Save) คือ การป้อนข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์รวมถึงการบันทึกข้อมูลไว้ในหน่วยเก็บข้อมูลสารอง เช่น ฮาร์ดดิสก์ แฟลชไดร์ฟ เป็นต้น
• การทาสาเนาข้อมูล (Backup) คือ การคัดลอกข้อมูลจากแฟ้มต้นฉบับและบันทึกไว้ในหน่วยเก็บข้อมูลสารอง เช่น ซีดีรอม เพื่อใช้ในกรณีที่เครื่องคอมพิวเตอร์เสียหาย ซึ่งอาจทาให้มีข้อมูลสูญหายไปได้
7. ข้อควรรู้เมื่อจะต้องกู้คืนข้อมูล
• ห้ามทาอะไรกับอุปกรณ์ที่ต้องการกู้ข้อมูล เมื่อรู้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆ เกิดความเสียหายขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหายลุกลามในวงกว้าง
• ควรตรวจสอบประเภทของไฟล์ที่ต้องการกู้คืนข้อมูลให้แน่ใจ เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการกู้ข้อมูล เช่น ไฟล์รูปภาพ (jpg/bmp), ไฟล์เอกสาร (doc/xls/ppt/pdf), ไฟล์เพลง (mp3) เป็นต้น
• ควรตรวจสอบตาแหน่งที่จัดเก็บไฟล์หรือข้อมูลสาคัญต่างๆ ก่อนที่เกิดปัญหาขึ้น เช่น ไดรว์ C:, ไดรว์ D:, ฮาร์ดดิสก์ลูกไหน หรือแฟลชไดรว์ตัวใด
8. เตรียมตัวกู้คืนข้อมูลต่างๆ
• โปรแกรมที่ต้องการใช้กู้คืนข้อมูลต่างๆ เช่น Easy Recovery Pro, Recover My Files หรือ Recuva เป็นต้น
• เตรียมอุปกรณ์สาหรับรองรับการกู้คืนข้อมูลให้พร้อม เช่น แฟลชไดรว์ ฮาร์ดดิสก์แบบเชื่อมต่อภายนอก หรือแผ่น CD/DVD
• เผื่อเวลาในการกู้คืนข้อมูล ซึ่งความเร็วในการกู้ข้อมูล ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์ ขนาดพื้นที่เป้าหมาย และความเสียหายของข้อมูล
9. สิ่งที่ควรทาหลังกู้คืนข้อมูลเสร็จสิ้น
• ตรวจสอบความเสียหายจากไฟล์หรือข้อมูลเป้าหมายต่างๆ ว่าสามารถเปิดใช้งานได้หรือไม่ หรือมีการแสดงผลข้อมูลได้ครบถ้วนหรือไม่
• ย้ายข้อมูลที่กู้คืนได้ ไปจัดเก็บในแหล่งที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลจากความเสียหายทางฮาร์ดแวร์
• แบ็คอัพข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม ด้วยโปรแกรมหรือเทคนิคต่างๆ เช่น ใช้โปรแกรม Windows Backup and Restore หรือ Acronis True Image
10. ความแตกต่างระหว่างการทาไฟล์อิมเมจ และการโคลนฮาร์ดดิสก์
ไฟล์อิมเมจ
• เหมาะสาหรับอุปกรณ์เครื่องเดียว ใช้เป็นการส่วนตัว
• รองรับการแบ็คอัพข้อมูลเพิ่มเติมได้เรื่อยๆ
• สามารถบีบอัดข้อมูลต่างๆ ให้เหมาะกับอุปกรณ์ในการแบ็คอัพได้
• ช่วยในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทันที
โคลนฮาร์ดดิสก์
• เหมาะสาหรับการติดตั้งบนอุปกรณ์หลายๆ ชิ้น เช่น ติดตั้ง Windows ให้คอมพิวเตอร์ 10 เครื่องขึ้นไป
• ไม่เหมาะกับการเพิ่มข้อมูลใดๆ หลังทาการโคลนฮาร์ดดิสก์เรียบร้อยแล้ว
• ต้องใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีขนาดเท่ากับฮาร์ดดิสก์ต้นฉบับ